นาฬิกาชีวิต
(BIOLOGICAL CLOCK)


สารบัญ

เรื่อง หน้า
คำนำ................................................................................................................................ 1
แนะนำอ.สุทธิวัสส์คำภา ...................................................................................................2
นาฬิกาชีวิต ...................................................................................................................... 3
กินอย่างไรจึงจะสุขภาพดี................................................................................................. 6
ตอบคำถาม .................................................................................................................... 10
อาหารเป็นยา .................................................................................................................. 11
เล่าให้ฟัง ........................................................................................................................ 14
แบบประเมินผลการตรวจสุขภาพโดยใช้Pendulum ....................................................... 15
อาหารสูตรเด็ด ............................................................................................................... 16
ข่าวสุขภาพ .................................................................................................................... 18
หนูดีใจ ........................................................................................................................... 19


1
คำนำ
หนังสือ “นาฬิกาชีวิต” เล่มนี้ เกิดจากการชอบฟังวิทยุ และฟงั เทปที่ อ.สทุ ธวิ ัสส์ คาํ ภา
ได้รับเชิยไปบรรยายตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะได้ติดตามฟัง อ.สุทธวิ สั ส์ บรรยายตามสถานท่ตี ่าง
ๆ โดยเฉพาะได้ติดตามฟัง อ.สุทธวิ สั ส์ บรรยายเปน็ ประจำทุกวันอาทติ ย์แรกของเดือนทบี่ ้านสวนไผ่
สุขภาพ ศูนย์รวมสุขภาพครบวงจรอาหารมังสวิรัติ
ทุกวันพุธ อ.สุทธิวัสส์ คำภา และทีมงานจะประเมินสุขภาพแบบองค์รวม โดยใช้ลูกดิ่ง
(Pendulum) มาประเมินสุขภาพให้สมาชิกโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้สมาชิกสามารถ
พึ่งตนเองได้ และยังช่วยครอบครัวในเรื่องสุขภาพอีกด้วย โดยนำเอาสิ่งที่อยู่รอบตัวมาใช้ทำอาหารให้
เป็นยา
การอาบน้ำรักษาโรค การพอกตัว (Body Detox) และอื่น ๆ อีกมากทำให้สมาชิกเกิดความ
ศรัทธา และเรียกร้องมามากมาย ขอให้ช่วยถ่ายเอกสารให้เป็นการส่วนตัว ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย
มากกว่าการทำเป็นรูปเล่ม
เพราะเหตุนี้จึงไดร้ วบรวมบางสว่ นซึ่งมปี ระโยชนม์ าจัดทาํ เปน็ หนังสอื เล่มนี้ขนึ้ เพื่อตอบสนอง
และแจกจ่ายให้แก่สมาชิกตามต้องการ
จากใจ...........ผู้จัดทำ


2
แนะนำ
อ.สุทธิวัสส์ คำภา
อาจารย์ สทุ ธวิ ัสส์ คำภา ท่านเปน็ ผ้มู คี วามเช่ยี วชาญเรื่องการใช้ลูกดิ่ง สำหรับประเมินสภาวะ
สุขภาพ ผสมผสานกับความร้เู ร่อื งธรรมชาติบาํ บดั ทา่ นได้นำความร้อู อกช่วยเหลือผปู้ ว่ ยและผทู้ ี่กำลังมี
ความเสื่อมของร่างกาย โดยไมเ่ ลือกชั้นเลือกฐานะ อาจารยเ์ ปน็ ผู้มจี ติ เมตตาสงู ปรารถนาท่จี ะเผยแพร่
ความร้แู ก่ผ้ทู ี่สนใจใหเ้ ปน็ ผู้ช่วยที่ดีใกล้ตัว เพื่อจะนำไปใช้ดูแลตนเอง และคนรอบข้าง พร้อมทั้ง
ช่วยเหลือผ้อู ื่นเมอื่ มโี อกาส ท่านคิดวา่ ถา้ คนไทยร้จู กั เลือกอาหารที่มปี ระโยชนก์ ิน สขุ ภาพก็จะแข็งแรง
ปลอดภัยจากการเจ็บป่วย งบประมาณที่รัฐต้องจ่ายไปเพื่อสั่งซื้อยาจากต่างประเทศก็ย่อมลดลงด้วย
อาจารย์ สุทธิวัสส์ คำภา เป็นนักธรรมชาติบำบัดที่มีพื้นฐานจากครอบครัวแพทย์แผนไทย
ประกอบกับมีประสบการณ์ในการสืบค้นภูมิปัญญาไทยตามแนวธรรมชาติบำบัดยาวนานกว่า 30 ปีทั่ว
ประเทศ ได้ค้นคว้าการแพทย์ในพระไตรปิฎกของพุทธศาสนา ท่านได้ศึกษา Pendulum จากแพทย์
ประจำตัวประธานาธิบดีเวเนซูเอล่า และได้พัฒนาประสานกับภูมิรู้ภูมิธรรมที่กว้างขวางและลึกซึ้งของ
ท่าน นำPendulum มาประเมินภาวะสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงนับเป็น
การแก้ปัญหาทั้งระบบของการประเมินสภาวะสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติของการแพทย์แบบองค์รวม
อาจารย์ สุทธิวัสส์ ได้เผยแพร่ความรู้ในเรื่องสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บเกิดจากมูลเหตุตาม
พระไตรปิฎก คือ
1. กรรม
2. จิต
3. พลัง
4. ร่างกายและอาหาร ซึ่ง Pendulum สามารถช่วยประเมินภาวะทั้ง 4 มิติ ได้อย่างละเอียดถี่
ถว้ น อาศัยความร้คู วามสามารถและประสบการณ์ทมี่ ากมายของอาจารย์ ทำใหก้ ารแก้ปญั หา
เป็นไปได้อย่งดีรอบด้าน และมีประสิทธิผล
ท่สี าํ คัญท่สี ุด คือ จิตใจท่ดี ีงามสงู สง่ ของ อาจารย์ สุทธวิ ัสส์ ท่ที า่ นเปน็ ครผู ้ไู มห่ วงวิชา ท่านได้
เผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ มากมายแก่ผู้สนใจ ลูกศิษย์ฯลฯ ทั้งเรื่อง Pendulum พลังจิต การจัดกระดูกคอ
และกระดูกหลัง อาหารบำบัด การอาบน้ำรักษาโรค การพอกตัว (Body Detox) ฯลฯ เพื่อให้คนไทย
สามารถพึ่งตนเองได้ในการประเมินภาวะสุขภาพของตนเองและผู้อื่น สามารถบำบัดรักษาสุขภาพให้
แข็งแรง สมบูรณ์อายุยืนยาว ยังประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัวสังคมไทย และสังคมโลกต่อไป


3
นาฬิกาชีวิต (BIOLOGICAL CLOCK)
การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยก
ไม่ออก โดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการ
ไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกายซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง
อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต
อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถงุ นำ้ ดี ลำไสใ้ หญ่ ลำไสเ้ ล็กกระเพาะปัสสาวะ ระบบ
ความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)
การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี
12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต”
ตัวอย่างเช่น การไหลเวียนของเสน้ ลมปราณปอด จะมพี ลังไหลเวยี นเริ่มต้นที่เวลา 03.00 น.
และสูงสุดในช่วงประมาณ 04.00 น. จากนนั้ จะคอ่ ย ๆ ลดลง และออกจากเส้นลมปราณปอดไปยังเส้น
ลมปราณลำไส้ใหญ่เวลา 05.00 น. การรักษาโรคของเส้นลมปราณปอดที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดจึง
ควรอยู่ระหว่างเวลา 0.00-05.00 น. ได้มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผลของการใช้ยาตะวันตก คือ ยาดิติตา
ลิสในการรักษาโรคหัวใจล้มเหลว (มีการคั่งของน้ำในปอด) การให้ยาในช่วงเวลา 04.00 น. จะให้ผล
ออกฤทธิ์ประมาณสสี่ บิ เทา่ ของการให้เวลาอื่น เปน็ ต้น การเคลื่อนไหวของพลังชีวิตของอวัยวะ
ภายในปีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนและสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเวลา (นาฬิกาชีวิต) ร่างกายเราจึงมีกลไกการ
ปรับตัวมีการสร้างสารคัดหลั่งฮอร์โมน การทำงานของระบบต่างๆ ฯลฯ เป็นไปตามสภาพธรรมชาติที่
เปลี่ยนแปลงไป
การดำเนินชีวิต และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิต ประจำวัน ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
ของธรรมชาติ จึงเป็นหลักฐานของการมีสุขภาพท่ดี ี และมีอายุยืน ปราศจากโรค โดยแบง่ เปน็ ช่วงเวลา
ดังนี้
01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำใน
ช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอนจาก
ร่างกายจะหลั่งมีราทินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร
เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว หน้าที่หลักของตับ คือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่
รอง คือ
1. ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บจะไม่สวย
2. ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อย ๆ จะทำให้ตับทำงานหนักตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก
จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ
03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด จงึ ควรตื่นนอนลกุ ขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บรสิ ุทธ์ิ และรบั
แสงแดดในยามเชา้ ผ้ทู ตี่ ื่นนอนช่วงนี้เปน็ ประจำปอดจะดี ผวิ ดขี นึ้ และจะเปน็ คนท่มี อี ำนาจในตัว
05.00-07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ควรขับถ่ายอุจจาระทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าไม่
ถ่ายให้ใชวิ้ธีกดจุดท่ตี าํ แหน่งสองข้างของจมูกถ้ายังไมถ่ า่ ยให้ดื่มนํ้าอนุ่ 2 แก้ว ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่ม
น้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ1 แก้ว + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาว 4-5 ลูก ทำดื่มจนกว่าจะถ่ายหรือ
บริหารโดยยืนตรง หายใจเข้าแล้วก้มลงพร้อมทั้งหายใจออก เอามือท้าวเข่าแขม่วท้องจนเหมือนว่า
หน้าท้องไปติดสันหลัง
07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้ากินอาหารเช้า
ในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคน
ตัดสนิ ใจชา้ ชี้กังวล ขาไมค่ ่อยมีแรง ปวดเขา่ หน้าแก่เร็วกว่าวัย


4
09.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด
สรา้ งนำ้ เหลือง ควบคมุ ไขมนั คนทปี่ วดศีรษะบ่อยมกั มาจากความผิดปกตขิ องม้าม อาการเจ็บชายโครง
สาเหตุมาจากม้ามกับตับ
- ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำใหเ้ หนอื่ ยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สรา้ งเมด็ เลือดขาวไดน้ ้อย
- ม้ามชื้น อาหารและนํ้าท่กี ินเขา้ ไปจะแปรสภาพเปน็ ไขมนั จึงทำใหอ้ ้วนง่าย
ผู้ที่มันนอนหลับในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้ม้ามยังโยงถึงริมฝีปาก
ผ้ทู ี่พูดบอ่ ย ๆ หรือพูดเก่ง ๆ มา้ มจะชื้น จงึ ควรพูดนอ้ ยกินนอ้ ย ม้ามจึงแข็งแรง
11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรหลีกเลี่ยง
ความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้
13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก จึงควรงดการกินอาหารทุกประเภทเพื่อเปิด
โอกาสให้ลำไส้ทาํ งาน ลำไสเ้ ล็กมหี น้าท่ดี ดู ซึมสารอาหารท่เี ป็นนํ้าทุกชนิด เช่น วิตามนิ ซี บี โปรตนี
เพื่อสร้างกรดอะมิโนสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโน
น้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า
เนื่องจากต้องใชก้ รดอะมิโนมากกว่าผ้ชู าย เม่อื มีลาํ ไสย้ าวกว่าจงึ มกี ระดูกซี่โครงมากกว่าผ้ชู ายขา้ งละ
1 ซี่
15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ แนวพลังของกระเพาะปัสสาวะเริ่มจากหัว
เตา -> ผ่านหน้าผาก -> ศีรษะ -> ท้ายทอย -> แผ่นหลังทั้งแผ่น -> สะโพก -> ด้านหลังขา -> หัว
เข่า -> น่อง -> ส้นเท้า -> นิ้วก้อย กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำไทรอยด์และระบบ
เพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกายหรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
ข้อควรระวัง ถ้าเหงื่อมีโซเดียมปนออมามากไตจะวาย แต่ถ้ามีโปตัสเซียมปนออกมามาก หัวใจจะวาย
แก้ไขเรื่องหัวใจวายด้วยการให้ดื่มน้ำน้ำส้มหรือน้ำมะนาวเพื่อเติมโปตัสเซียม (ผ้ทู ี่มโี ปตสั เซยี มนอ้ ย
ต้องระวังเรื่องการฉีดยาชา เพราะยาชา จะทำให้โปตัสเซียมลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจอาจวายได้ง่าย)
การอั่นปัสสาวะบ่อย ปสั สาวะจะถกู ดูดซึมเขา้ สู่กระแสเลอื ด ทำใหเ้ หง่อื ท่อี อกมามีกลิ่นเหมน็
เหมือนปัสสาวะ
17.00-19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต จึงควรทำใจให้ลดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้
ผ้ใู ดมอี าการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงวา่ มีปญั หาเร่อื งไตเสอื่ ม ถา้ นอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการ
หนักมาก
-ไตซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม
ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และ
เป็นคนขี้ร้อน
-ไตขวา จะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำถ้าไตขวามีปัญญา ความจำจะเลื่อม
และเปน็ คนข้หี นาว (ผู้ที่ไตแข็งแรงจะเปน็ คนมอี ายุยนื เปน็ คนกล้า)
ถา้ ลำไส้เลก็ มไี ขมนั เกาะมาก อาหารท่อี ยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไสเ้ ล็กไมไ่ ด้ จึงตกเปน็
ภาระของไต เปน็ ผลให้ไตทาํ งานหนัก จึงกลายเปน็ โรคไต ผ้ทู เี่ ปน็ โรคไต สมองจะเส่อื ม ปวดหลัง เปน็
หวัดง่าย มีเสลดในคอ
การดูแล คือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น กรณีที่อาบน้ำไม่ได้ ให้ใช้วิธีแช่เท้า
แต่นํ้าควรใสส่ มนุ ไพรทถี่ กู กบั โฉลกของผู้ปว่ ย เช่น ขงิ ขา่ กระชาย อย่างใดอย่างหน่งึ


5
19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ปัญหา
เกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือ หัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ
การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด ตอ้ งดูแลเยอื่ หุ้มหวั ใจให้แขง็ แรง ควรใสเ่ ส้อื ผา้ ชุดสดี ำ เทา อาเทา้ แช่
เท้าในน้ำอุ่น
21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น จึงห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้
เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ
23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี (ถงุ นำ้ ดีเปน็ ถงุ สาํ รองเก็บนำ้ ยอ่ ยที่ออกมาจากตบั )
อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำจะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว
สายตาเสอื่ ม เหงอื กจะบวม ปวดฟนั นอนไม่หลบั ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม (ถุงน้ำดีจะโยงปึง
ปอด) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ (ผ้ทู ี่ตัดถงุ นำ้ ดอี อก เมอื่ ตรวจด้วยลูกดิ่ง
จะพบว่า ถุงน้ำดีข้น มักมีอาการปวดขา ปวดสะโพก)
ทางแก้ คือ อย่าใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ ไนล่อน ชุดนอนที่ทำจากใบสังเคราะห์จะไป
ดูดนำ้ ในร่างกาย ควรสวมชุดผา้ ฝา้ ยที่ดีทสีุ่ด ไมค่ วรนอนบนที่นอนสูง ๆ เพราะจะทาํ ใหเ้ สียนํ้าใน
ร่างกาย ดังนั้น ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.


6
กินอย่างไรจึงจะสุขภาพดี
คนมีสุขภาพดีตามหลักอภิธรรม
ความบกพร่องทางรูปกาย มีสาเหตุ 4 ประการ คือ
1. เกิดจากกรรม บางคนแก้กรรมก็หายป่วยได้
2. เกิดจากจิต เป็นวิธีคิดของคนบางคนทำให้ตัวเองปว่ ยได้ เช่น ความโกรธ คนท่โี กรธบ่อย ๆ จะ
ทำตับเส่อื มและเปน็ สาเหตุของมะเร็งด้วย ทำไมจึงโกรธ เพราะมีสารอาดรีนาลีนเยอะ ทำไมจึง
มีสารน้มี าก เพราะกนิ เนอื้ สตั ว์ สัตวร์ ้ตู ัววา่ จะถกู เขาฆ่า รา่ งกายของมันจะหล่งั สารอาดรนี าลีน
ออกมาเพื่อกล่อมประสาท ซึ่งสารพิษนี้ยังคงตกค้างอยู่ในเนอื้ สตั วท์ ่เี ขาชาํ แหละแมจ้ ะนำไปตม้
หรือทอด สารนี้ก็ยังตกค้างอยู่ ถ้าสารตัวนี้สะสมมากในร่างกายของคนเรา จะทำให้ฝันเหมือน
วิ่งหนีเพราะถูกไล่ฆ่า
วิธีคิดของคนสามารถทำให้ป่วยได้หรือการแสดงอาการต่าง ๆ เช่น โกรธ น้อยใจ ไม่ได้ดั่งใจ
งอน จะปว่ ยด้วยโรคทรวงอก ใหส้ งั เกตคนที่ป่วยเปน็ มะเรง็ ท่ที รวงอก มกั จะเป็นคนข้นี ้อยใจ ขกีั้งวล
3. เกิดจากเหตุ อุตุ ในพระไตรปิฎก แปลว่า พลังงาน พลังงานการไหลเวียนในร่างายไม่ดีอาจ
เกิดจากหลายสาเหตุเช่น เกี่ยวกับการกินอุตุแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- อัฌฌัตอุตุ(พลังงานที่ไหลเวียนในร่างกาย)
- พหิทธอุตุ พลังงานที่มาจากภายนอก แล้วซึมซับเข้ามาในร่างกายเราได้ พลังงานที่
ไหลเวียนในร่างกายอยู่ที่ไหน ในร่างกายมีเซลล์ประสาทเชื่อมโยงจากสมอง ในสมอง
คนมีอนุภาคแม่เหล็ก 7,000 ชิ้น จากสมองมีสายคล้ายสายไฟโยงใยไปทั่วร่างกาย
เรียกว่า เซลล์ประสาท ข้าในเซลล์มีโพรงตรงกลาง มีประจุไฟฟ้าบวก รอบนอกมีประจุ
ไฟฟ้าลบ ประจุไฟฟ้าลบมีหน้าท่ไี ล่จบั อนุมลู อสิ ระ ต่อต้านเชื้อโรค ถา้ มปี ระจไุ ฟฟา้
เยอะก็ไม่ค่อยป่วย ชื่อเรียกประจุไฟฟ้าลบ มีความแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม เช่น ใน
ญี่ป่นุ เรยี กวา่ ชิ จีนเรยี กวา่ ชี่ ชี่กง ในอินเดีย เรียกว่า ปราณ นที หรือ กณุ ฑลินี ฝร่งั
เรียกว่า Vitality Force or Universal Force ถ้าเราวัดค่าสนามแม่เหล็กในคนปกติ
พลังงานเฉลี่ยปรกติ 0.7 เกาท์ ในคนที่กินเนื้อสัตว์จะมีน้อยกว่า และจะเจ็บป่วยบ่อย
เพราะค่าอุตุหรือพลังงานปั่นป่วน คนกินมังสวิรัติมักจะสูงกว่า 0.7 ยกเว้นบางกลุ่ม
- สี กลิ่น เสียง รส การเคลื่อนไหวออกกำลังกาย เป็นการกระตุ้น อุตุ
4. เกิดจากการกินอาหาร ในศาสนาพุทธแบ่งอาหารเป็น 4 กลุ่ม
ก. กวฬิงกลาหาร ได้จากการกินพวกพืชผักสมุนไพร เน้นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ข. ผัสสาหาร จากการสัมผัส เสียดสีของสวยงามต่าง ๆ เช่น อัญมณีหินสีสวยงาม
ค. มโนสัญเจตนาหาร จากการใช้สมาธิ
ง. วิญญาณาหาร อาหารที่ได้จากจิตวิญญาณ จากความรัก ความผูกพัน จากความสัมพันธ์
ระหว่างครูอาจารย์กับศิษย์ หรือคนที่มีเป้าหมาย มีความคิดเหมือนกัน จะสามารถ
ประคองชีวิตให้อยู่ได้


7
เวลาตกฟากของคนไม่เหมือนกัน จะเป็นตัวแสดงธาตุเจ้าเรือน หมอสมัยโบราณจึงต้อใช้วิธีคำนวณวัน
เดือนปเี กดิ ของเดก็ เพื่อจะได้รู้ว่าระบบไหนภายในร่างกายอ่อนแอ เมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ ธาตุเจ้าเรือน
จะเปล่ยี นไปตามวธิ ีคดิ และสิ่งแวดล้อม ไมส่ ามารถกนิ อาหารตามธาตุเหมอื นตอนเป็นเด็กได้ ต้องกิน
ตามธาตุปัจจุบัน
อวัยวะภายในร่างกายมี12 ระบบ แต่ละระบบจำงานหนักเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ในแต่ละวัน
ช่วงตสี ามถงึ ตหี า้ ปอดจะทำงานหนัก คนท่มี ีปญั หาเรื่องปอดจะไมค่ ่อยตนื่ เวลานี้ คนต่นื ได้ตี
สาม ตีหา้ แปลว่าปอดแข็งแรง มีโอกาสเป็นเปน็ ผ้นู าํ คนเพราะลมมาจากปอด พูดมพี ลังอำนาจ คนต่นื
สาย ปอดจะไม่แข็งแรง
การรักษาโรคปอดหรือหอบหืด
ใช้ขิงเท่าหัวแม่มือของผู้ป่วย หอมแดงเทา่ ขงิ กระเทยี มเทา่ ขงิ ปนั่ หรือตำ เติมนํ้า 1 แก้ว กรอง
เอาแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บีบมะนาว 3-4 ลูก ไม่เกิน 1 เดือน หอบหืดจะหาย เว้นเสียแต่จะเป็นมา
นานหลายสิบปีอย่านี้ต้องใช้เวลา 60 วัน
ช่วงตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีหน้าที่ขับถ่ายอุจจาระออกไป แต่
คนเรามกั จะไม่ตนื่ ในชว่ งนี้ ซึ่งเปน็ เวลาที่ลำไสต้ ้องบีบอุจจาระลง เม่อื ไม่ตื่นจึงต้องบีบข้นึ เม่อื ไมถ่ า่ ย
ตอนเช้า ลำไส้ใหญ่จึงรวน ดูอย่างไรว่าลำไส้รวน จะมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อน
แล้วทำให้นอนกรนในที่สุด ในรายที่ลำไส้ใหญ่ผิดปกติ ควรต่นื นอนก่อนตหี า้ แล้วไปขบั ถา่ ย ถา้ ไมถ่ า่ ย
ให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว ถา้ ยังไมถ่ า่ ยอีก ใหด้ ื่มนํ้าผ้งึ ผสมนำ้ มะนาว และกดจุดขา้ งจมูกช่วย คนท่ขี บั ถา่ ย
ยากต้องกินอาหารเช้าบางคนไม่กินอาหารเช้า ดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวก็อิ่ม ร่างกายจะดูดกากอาหาร
ตกค้างซึ่งกำลังจะเป็นอุจจาระกลับเข้ากระเพาะใหม่เท่ากับ “กินกาแฟแกล้มอุจจาระ”
ช่วงเจ็ดโมงถึงเก้าโมงเช้า กระเพาะอาหารจะทำงานเต็มที่ช่วงนี้ ถ้าเราไม่ทานอาหารเช้า
อุจจาระจะถกู ดูดกลบั มาท่กี ระเพาะ กิล่นตัวจะเหมน็ ถา้ เราขบั ถา่ ยออกหมดเกลี้ยงเกลา จะไมม่ กี ลิ่นตัว
เท่าไหร่ อย่างน้อยขอให้มี โยเกิร์ต+นมสด+น้ำผึ้ง+มะนาว ก็จะได้สารอาหารเพียงพอในมื้อเช้าแล้ว
สูตรนี้ได้มาจากพระไตรปิฎก บำรุงกระเพาะ สมองดี
วิธีการดูแลแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากมีกรดมาก ใช้ขมิ้นชันเท่านิ้วก้อย 3 แง่ง ต้องขูด
เปลือกออกก่อนเพาะในเปลือกมีสารสเตียรอยดสติกนิน (สารนี้สะสมมากอาจเป็นอันตรายได้) นำมา
หั่นเป็นแว่น ๆ ใส่ถ้วย เติมน้ำร้อยลงไป 3 ช้อนชา แต่ตักดื่มเพียง 2 ช้อน ที่เหลือทิ้งไป เป็นการรักษา
แผลตามหลอดอาหารได้ดีมาก
ผ้เู ปน็ แผลที่หลอดอาหารมักไม่ค่อยรู้ตัว จะมีเสมหะบอ่ ย กนิ อาหารแล้วรอ้ นที่คือ สว่ นใหญเ่ ม่อื
กินยาเข้าไปรักษา ยาจะเลยหลอดอาหารไปลงกระเพาะหมด ลองใช้สูตรนี้ คือ กล้วยหอมหรือกล้วย
น้ำว้าดิบประมาณ 2 ผล ใช้ทั้งเปลือกตดั จุกตดั กา้ น ห่นั เปน็ แวน่ ๆ นำไปตม้ ในหมอ้ ใส่นํ้าพอท่วม เตมิ ้
น้ำตาลกรวดกินเป็นประจำ ส่วนกล้วยหอมสุกกินทุกวันตอนเย็นสองลูก จะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อ หรือต้ม
กลว้ ยหอมสุกทั้งเนอื้ และเปลือก ใสน่ ํ้าตาลกรวด กินทั้งเน้อื และเปลือกก็จะดมี าก
ช่วงเก้าโมงเช้าถึงสิบเอ็ดโมง ม้ามจะทำงานหนัก ให้พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
ช่วงสบิ เอด็ โมงถงึ บา่ ย เปน็ ช่วงของระบบหวั ใจ หมายถึง กล้ามเนื้อหัวใจ คนท่มี ปี ญั หาเร่อื งนี้ ดู
ที่อาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างท่เี ข้าใจกนั กล้วย ส้ม มะเขอื เตย รากบวั บาํ รุง
หัวใจ (เม็ดบัวบำรุงตับ ไต)
ช่วงบา่ ยถึงสามโมงเย็น เปน็ ช่วงลำไสเ้ ลก็ ซึ่งเร่อื งนี้สำคัญมากในยุคสมยั นี้ เพราะวา่ เปน็
ต้นเหตุของไข้หวัดหนู นก และเป็นตัวฆ่านักมังสวิรัติ ลำไส้เล็กขดไปมาในร่างกายผู้ชาย 30 ฟุต


8
ผู้หญิงจะมากกว่าชายอีก 10 ฟุต การที่ไสข้ ดไปขดมา เมื่อกนิ อาหารเข้าไป ส่วนที่ย่อยไม่หมดจะไป
เน่าเสียตกค้างอยู่ตรงส่วนที่หักมุมของลำไส้ เศษผักไม่เท่าไหร่ ที่เป็นปัญหาคือ ทุกวันนี้ใช้น้ำมันผัด
ผักเพราะเร็วดีถ้าเป็นน้ำมันธรรมชาติล้วน ๆ เช่น น้ำมันมะกอก จะไม่เป็นปัญหาต่อลำไส้เล็ก แต่น้ำมัน
ที่ซื้อขายทั่วไปมกั มีส่วนผสมของนำ้ มนั ปาล์ม แม้จะบอกว่าเปน็ ถ่วั เหลือง หรอื เมล็ดทานตะวนั กต็ าม
ลองเปรียบเทยี บการทำความสะอาดครวั สมยั นี้ ตอ้ งใช้นํ้ายาเคมเี พื่อล้างคราบนำ้ มันเหนียวเหนอะ
ออกไป
น้ำมันปาล์มเมื่อโดนความร้อนจะทำใหเ้ หนียวหนืด เวลาโฆษณา มกั จะบอกว่าไมเ่ ปน็ ไร เมอื่
นำไปแช่ตู้เย็น แต่ในร่างกายคนเรามีอุณหภูมิ 37 องศา เมื่อเข้าส่รู ่างกายจะไปเกาะที่ลำไส้ เวลาดื่มนํ้า
นํ้าก็ไมส่ ามารถทะลผุ า่ น ทำใหต้ อ้ งฉี่บอ่ ย ๆ บางคนด่มื นํ้าไปไมถ่ งึ สบิ นาทกี ็ต้องลุกไปฉี่ เพราะไต
ทำงานหนัก เมื่อเป้นอย่างน้ที ุกวนั จะทำใหก้ ระดกู เสื่อม เพราะไตเปน็ ตัวควบคมุ กระดกู และสมอง และ
เลือดไปเล้ยี งสมองก็น้อย เกิดปญั หาสมองเสื่อมตามมาอีก นํ้าไมเ่ ขา้ ร่างกาย แตส่ ิ่งผา่ นเข้าไปได้ คือ
วิตามินเอ อี ดี แต่ วิตามินซี โปรตีน กรดอะมิโน ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้จึงโละไปให้ไต ไตต้อง
ทำงานหนักเพราะต้องขบั โปรตนี ออกมา เพราะฉะนั้น คนทเี่ ปน็ โรคไตเวลาตรวจปสั สาวะจะพบโปรตีน
เพราะโปรตีนไม่สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ ต้องมีสี่ตัวหาม สามตัวแห่ คือ วิตามินซี บี1 บี3 บี6
และ บี 11 เข้าไปเป็นชุดของมัน จะขาดตัวหนึ่งตัวใดไม่ได้ ต้องมาพร้อม ๆ กัน ที่ไตทำงานหนักก็
เพราะเหตุนี้
เมื่อเป็นปญั หาที่ไต นํ้าไมอ่ าจผ่านเขา้ ไปได้ สิ่งท่ตี ามมา คือ ถงุ นำ้ ดขี น้ ถงุ นำ้ ดจี ะเกบ็ นำ้ ดจี าก
ตับแล้วมาย่อยไขมนั ถงุ นํ้าดีจะแห้งไปทกุ วัน เพราะนำ้ ไมเ่ ขา้ ตัว เราจะต่นื นอนหรือนอนไม่หลับในชว่ ง
ห้าทุ่มถึงตีสาม ไปหลับอีกทีในช่วงเช้ามืด ซึ่งเป็นเวลาที่ควรตื่นนอนแล้ว เพราะว่าช่วงนี้มันง่วงก็ไป
หลับเช้ามืดอีกทีเพราะฉะนั้นช่วงนี้ถุงน้ำดีจะข้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของไมเกรน ถ้าแพทย์แผนปัจจุบันต้อง
รอให้ปวดหวั เสียก่อนแตแ่ พทย์แผนโบราณจะตดั สนิ วา่ เปน็ ไมเกรนได้ ตั้งแตเ่ ริ่มมอี าการคอแห้ง รอ้ น
ใน ปวดตามซี่โครง ปวดขาด้านข้าง เสียวฟัน ปลายประสาทฟันดูเหมือนจะอักเสบตลอดเวลา ไปหา
หมอฟัน หมอจะถอนให้ พอปวดกระบอกตา ปวดหู หมอจะบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ต้นเหตุจริง ๆ
มาจากถุงน้ำดีข้น ซึ่งเป็นเรื่องของเหตุตาม ๆ กันมาที่ทำให้ปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้าง เลือดเลี้ยง
สมองส่วนหน้าไม่พอ จะมีปัญหาสายตาตามมา ตาจะเป็นต้อง่าย จมูกจะเป็นไซนัสง่าย เป็นภูมิแพ้ง่าย
นี่คอื ผลพวงมาจากลำไสเ้ ล็กไม่สะอาดท้งั สนิ้
วิธี detox ลำไส้เล็กตามธรรมชาติ เอาสูตรมาจากพระไตรปิฎก คือ สูตร โยเกิร์ต+นมสด+
น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว กินเข้าไปจะไปล้างลำไสไ้ ด้ แลคโตบาซิลัสในโยเกิรต์ จะไปชว่ ยไขมนั ทอี่ ยู่ในลำไส้
ไปย่อยขยะในลำไส้ด้วย เปลี่ยนเป้นวิตามินบี 12 ใหเ้ รา สูตรน้กี ินตอนเช้าลดความอ้วน กนิ ตอนเย็น
เพิ่มความอ้วน ฝึกดื่มน้ำตามมาก ๆ เป็นวิธีแก้
ถา้ มผี ลตอ่ เนอื่ งที่เกิดจากไขมนั เกาะในลาํ ไสเ้ ล็ก เช่น เปน็ โรคไตเกดิ ขนึ้ การที่ผมเปลี่ยนสเี ปน็
สัญลักษณ์ของอาการไตเริ่มเสื่อม ไตสองข้างเสื่อมจะมอี าการไม่เหมอื นกัน ถา้ ไตซา้ ยเสอื่ มท่านจะขี้
ร้อน แลไม่ใส่ใจตนเอง ไม่ค่อยดูแลตัวเอง เป็นอะไรก็ปล่อยปละละเลย ปล่อยตัวแต่ไม่ปล่อยวาง ไม่
กตัญญูต่อแผ่นดินที่ให้ร่างกายนี้มา ร่างกายเราเป็นแผ่นดินของจิตวิญญาณ ถ้าไตขวาเสื่อมจะขี้หนาว
ความจำลดลง ไมต่ อ้ งรอให้หมอวินิจฉยั ว่าเปน็ โรคไต ถา้ เริ่มมสี ัญญาณก็จดั การตัวเองเลย เห็ดหูหนูดำ
เป็นตัวดูแลไตที่ดี บางสำนักอาจจะตีความเห็ดชนิดนี้ไว้ไม่ดีว่า อาจเป็นพิษหรืออะไร ที่จริงเห็ดเป็น
แหล่งโปรตีนที่ดีกว่าถั่วเหลือง เต้าหู้ นักมังสวิรัติบางคนถูกครอบงำด้วยสารพิษในลูกชิ้นเทียม อาหาร
จากธรรมชาติดีที่สุด เห็ดหูหนูดำบำรุงไต เห็ดหูหนูขาวบำรุงปอด ถ้าเอาเห็ดสามอย่างมาปรุงอาหาร
รวมกัน จะเกิดความมหัศจรรย์ขึ้น สามารถล้างพิษในตับได้ ผมเป็นนักธรรมชาติบำบัดมาหลายปี มี
ประสบการณ์ในการรักษาคนไข้โรคมะเร็ง มีประสบการณ์ในการกินเห็ดสามชนิด ทำให้หายดีขึ้น
เห็ดสามชนิด คือ เหด็ อะไรกไ็ ดท้ กีิ่นได้ จะทาํ แกงส้มกินก็ได้ ทั้งสามตวั นี้สามารถช่วยรักษาตับ
ซีสต์เนื้องอก มะเร็ง มีการค้นพบว่า คนเป็นเนื้องอกใหญ่ในมดลูกช่องท้อง หลังจากกินเห็ดสามอย่าง
เป็นประจำ พวกซีสต์เนื้องอกจะลดลง มีกลุ่มที่ รพ.นวนครป่วยเป็นซีสต์ในมดลูก เขาเอาเห็ดสามอย่าง
มาทำแกงเลียง แกงส้ม ต้มยาํ หรือของหวานได้ทงั้ น้นั หรือจะทาํ นํ้าดื่มใส่มะตมู ใบเตย เคร่อื งดื่มนถี้ า้
ทานเป็นประจำจะล้างสารพิษในร่างกายออกได้ดีอาจจะต้มใส่กาก็ ห่วยซัวใส่หม้อต้มกับสาหร่ายทะเล
ไม่ต้องปรุงอะไรอร่อยพอดีเป็นซุบทานประจำก็ได้


9
เรื่องไต ตัวท่บี าํ รงุ ไตดที สีุ่ด คือ กระชาย ไม่ถึงขนาดต้องใช้กระชายดำ เพราะราคาแพง เอา
กระชายเหลืองธรรมดา 1 กก. ใส่นํ้าเยอะ ๆ ปนั่ ผสมกบั โหระพา รนิ เอาแต่นํ้าใส ทำมาก ๆ แล้วเก็บใส่
ตู้เย็น ไมต่ ้องต้มเพราะมนั ฆา่ เชื้อด้วยตัวเอง ผสมนาํ้ ผ้งึ นำ้ มะนาว ด่มื บาํ รงุ สมอง บาํ รงุ กระดกู เลือด
เลี้ยงสมองไม่ดีความจำเสื่อม นอนไม่ค่อยหลับ จะช่วยได้แล้วผมจะกลับมาดกดำอีก (ผมอายุ50 ปี
สมัยก่อนหัวล้าน ผมร่วง หงอกด้วย พอได้น้ำกระชายก็กลับมาดำใหม่ ไม่ต้องย้อมเลย) ไม่ควรย้อม
หรือโกรกผมเพราะสารเคมีพวกนี้มีพิษต่อตับ ให้กินแบบนี้ผมจะกลับดำต้งแต่โคนขึ้นมาเลย น้ำกระชาย
ที่กรองไว้อยู่ได้เป็นเดือน ทำเป็นเครื่องดื่มประจำจะดีมาก
โคเรสเตอรอล แพทย์ตะวันตกไม่ให้ความสำคัญกับเยื่อหุ้มหัวใจ มันมีผลต่อการทำให้โค
เรสเตอรอลสูง มีผลทำให้ลิ้นหวั ใจรั่ว เส้นเลือดตบี ในสมองหรือคนท่เี ปน็ เสน้ เลือดขอด ใหใ้ ช้กระเจี๊ยบ
แดงต้มกับพุทราไทยหรือจีนก็ได้ เติมน้ำตาลกรวดเล็กน้อย เอาไว้ล้างไขมันในเลือด ในรายที่เส้น
โลหิตในสมองตีบ ก็สามารถขจัดออกไปได้เร็ว ๆ นี้มีคนป่วยด้วยเส้นโลหิตในสมองตีบ ก็แนะนำให้ต้ม
กระเจี๊ยบกบั พุทราจนี กนิ เขาก็หายได้ เปน็ เรื่องง่าย ๆ แตช่ ่วยได้เยอะ
ในรายที่ร่างกายไม่ค่อยสร้างเม็ดเลือด มีเม็ดเลือดน้อย หรือเป็นลมหน้ามืดบ่อย การใช้
สับปะรดป่นั กบั ใบโหระพาจะชว่ ยเพิ่มเมด็ เลือดไดดี้ เด็กที่เลอื ดน้อย ลองทำให้กิน ในรายที่ทาน
มังสวิรัติ แล้วคิดว่าขาดโปรตีนอย่างกังวล เพียงปั่นสับปะรดกับใบโหระพาดื่ม ก็สามารถเพิ่มเม็ดเลือด
ได้ เป็นการสร้างโปรตีนให้แก่ร่างกายด้วยวิธีง่าย ๆ แม้แต่พืชผักในธรรมชาติก็มีแหล่งโปรตีน และ
กรดอะมิโนอยู่ในตัว ขอเพียงให้รู้จักวิธีนำมาใช้


10
ตอบคำถาม
สับปะรดทุกชนิด ใช้ได้ทุกชนิด
ถ้าช่วงเพลแล้วร้สู ึกง่วงเหมอื นไม่สบาย คอื หวั ใจอ่อนแอ โดยหลักควรจะงีบสักสิบหา้ นาที แล้วด่มื
นํ้าสบั ปะรดป่นั กบั โหระพา ไปบาํ รุงหวั ใจอาการจะดีขึ้น
ท้องผูกต้องใช้ยาถ่ายตลอดมา ขอให้หยุดยา ตนื่ แตเ่ ช้าก่อนตีหา้ ลองดื่มนํ้าผ้งึ ผสมมะนาวลงไป
พยายามตัดใจไม่ใช้ยาถ่ายเพราะทำให้ปลายประสาทเสื่อม ควรดื่มน้ำตามเยอะ ๆ กดจุดช่วย สู้กับ
มันให้ได้ ทำจนเกิดความเคยชิน พยายามทานโยเกิร์ต+นมสด+น้ำผึ้ง+มะนาว พวกนี้จะไปล้าง
ลำไสใ้ หญใ่ หส้ ะอาด แล้วปลายประสาทจะดขี ้นึ
ตัวปรบั สมดลุ ในรายประจำเดือนไม่ปรกติ เกิดจากฮอร์โมนผิดปรกติ ตัวควบคมุ ฮอร์โมนใหอ้ ยู่ใน
ภาวะปรกตดิ ท่ดี ีที่สุด คอื นํ้ากระชาย ถา้ ฮอร์โมนมากไปหรือน้อยไป นํ้ากระชายสามารถปรบั ให้
สมดุลได้ ตัวอย่างเชน่ ผ้ชู ายมีฮอร์โมนเพศชายมากไป ผมจะรว่ ง ต้องปรับฮอร์โมนใหล้ ดลงถ้า
ฮอร์โมนสมดุลจะทาํ ให้ไมเ่ จบ็ ปว่ ยงา่ ย ปญั หาเกี่ยวกับระบบสบื พนั ธุ์ ระบบเพศ ใหใ้ ช้นํ้ากระชายซ่งึ
ไมมี่สารสเตยี รอยด์สติกนนิ ที่มอี ยู่ในโสมซ่งึ ตอ้ งสกัดสารเหล่านี้ออกกอ่ น กระชายมสี รรพคุณ
ทางบวกด้านดีเหมือนโสม แต่ว่าด้านเสียของโสมไม่มีในกระชาย
ในพระไตรปฎิ กพดู เร่อื งมะม่วงสกุ คนั้ รักษาอาการ Menopause ในฤดทู ี่มมี่ ะมว่ ง ใหใ้ ช้นํ้ากระชายแทน
กรณีเลือดใสเพราะขาดโปรตีนของผ้ปู ว่ ยโรคมะเรง็ ผ้ปู ว่ ยมะเร็งไม่สามารถกินโปรตนี ได้ ตน้ เหตุ
ของมะเร็ง คือ โปรตีนจากสัตว์ทุกชนิดไปทำให้เซลล์มะเร็งมัน Firm ให้งดโปรตีนจากสัตว์โดย
เด็ดขาด แต่โปรตนี จากเห็ดไมเ่ ปน็ พิษกับมะเรง็ แตจ่ ะเปน็ ตัวไปขจดั มะเรง็ เพราะฉะน้นั การใชเ้ หด็
สามชนิดมารวมกันจึงกลายเปน็ ยาข้นึ มาได้ ลองเปรียบเทยี บกับดนิ ปนื ที่ใส่ประทดั ถา้ แยก
ส่วนประกอบออกมาแต่ละตัวแทบจุดไม่ติดไฟ แต่พอนำมารวมกันกลายเป็นระเบิดได้ เห็ดก็
เหมอื นกัน เวลาแยกกนั อยู่มันก็แคอ่ าหารธรรมดาไม่มปี ระโยชนเ์ ทา่ ไหร่ พอรวมกันสามอย่างมคี ่า
กรดอะมิโนที่สามารถไปลดเซลล์มะเร็ง ซีสต์เนื้องอกได้ เพราะฉะนั้นโปรตีนจากเห็ดสามอย่าง
รวมกันสามารถช่วยลดอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ เห็ดสามอย่างจะใช้เห็ดอะไรก็ได้ แต่
แนะนำให้ใช้เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาวและหนูดำเพราะเป็นของแห้งเก็บได้นาน
โรคปวดในกระดูก ตามความเป็นจริงแล้ว กระดูกจะปวดได้ก็ต่อเมื่อมันแตก หัก หรือร้าวเท่านั้น
อาการปวดที่เกิดอาจเปน็ ที่เส้นเอ็น ซึ่งจะตอ้ งแยกให้ออก ถา้ ปวดบรเิ วณสนั หน้าแขง้ ไมใ่ ช่กระดกู
เกิดจากกระเพาะผิดปรกติ ต้องตรวจดุว่ากินอาหารเช้าระหว่าง 7 โมงถึง 9 โมงเช้า หรือไม่ วิตก
กังวลมั้ย ในกรณีผู้ถาม เป็นเพราะดื่มกาแฟแต่เช้า และทานอาหารเช้าตอนสายมาก ประมาณเก้า
โมง ด้วยเหตุนี้จึงปวดขา ควรต้องปรับเวลาอาหารเช้าให้เร็วขึ้น และเพื่อรักษากระเพาะให้ใช้กล้วย
ดิบตดั หวั ทา้ ยต้มกบั นำ้ ตาลกรวด หรือขมิ้นชัน (ที่กล่าวไวแ้ ล้วตอนตน้ )


11
อาหารเป็นยา
น้ำสับปะรดปั่นกับโหระพา หรือใบตำลึง
(กินใบโหระพาวันละ 7 ยอด เป็นยาอายุวัฒนะ)
เครื่องปรุง สับปะรด 1 หัว
ใบโหระพา 1 ขีด
วิธีทำ ปอกเปลือกสบั ปะรด ปนั่ ผสมกบั ใบโหระพา แล้วกรองเอาแต่นํ้ามาด่มื
สรรพคุณ - ลดลมในตัว
- แก้อาหารเลือดข้น
- ทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าดีขึ้น
- ลดความดันโลหิตสูง
- บำรุงหัวใจ
- เพิ่มเดเลอื ดแดง ถา้ ใช้ทั้งแกนสับปะรดจะเพ่มิ เมด็ โลหิตขาวด้วย
- ลดอนุมูลอิสระ
เห็ดสามอย่าง
(เห็ดหอม+เห็ดหูหนูขาว+เห็ดหูหนูดำ+ผลมะตูมแห้ง+ใบเตย)
เครื่องปรุง เห็ดหอม+เห็ดหูหนูขาว+เห็ดหูหนูดำ(แห้ง)หรือเห็ดฟาง+เห็ดนางฟ้า+เห็ดเป๋าฮื้อ (สด)
วิธีทำ นำเห็ดแห้ง 3 อย่าง แช่น้ำใหน้ ิ่ม แล้วห่นั นำไปตม้ รวมกัน หรอื นำเหด็ สด 3 อย่าง
ล้างแล้วหั่นต้มรวมกัน ใส่น้ำเยอะ ๆ นำมะตูมแว่นมาปิ้งให้หอม แล้วต้มรวมกันดื่มแทน
น้ำซุปได้ส่วนเนื้อเห็ดนำไปผัดหรือยำ
สรรพคุณ - เป็นอาหารบำรุงตับ (มันฝรั่งต้มหรือนึ่งช่วยบำรุงตับ)
- อารมณ์ไม่ดี
- การสร้างเม็ดเลือดแดงจะไม่ดี
- ไทรอยด์อาจเป็นพิษได้
- ตัวผอมแตพ่ ุ่งปอ่ ง เนื่องจากตับมปี ญั หา
- ช่วยล้างสารพิษตกค้างในตับ ล้างไขมันในตับ
- สลายพังผืดในมดลูก
- เพิ่มเมด็ โลหิตขาว ลดไขมันในเสน้ เลอื ด
หมายเหตุ เห็ดอาจเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดโคน เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ ฯลฯ
เอาแค่สามอย่าง อาจนำมาทำอาหาร เช่น ยำ ต้มยำ หรือ อื่น ๆ กินก็ได้
น้ำกระชายปั่นกับนำ้ ผึ้งผสมนาํ้ มะนาว
เครื่องปรุง กระชาย 1 ขีด
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 2 ลูก
วิธีทำกระชายล้างน้ำให้สะอาด ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำสะอาดลงไป 2 แก้ว กรองเอาแต่น้ำ
ใส่น้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไปผสมปรุงรสตามใจชอบดื่มได้เลย
สรรพคุณ - บำรุงกระดูก (เพราะมีแคลเซียมสูง)
- บำรุงสมอง เพราะทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนกลางดีขึ้น
- ปรับสมดุลของฮอร์โมน
- ปรับสมดุลของความดันโลหิต (ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง ความดันโลหิตที่ต่ำ
จะสูงขึ้น)
- แก้โรคไต ทำใหไ้ ตทาํ งานดขี นึ้
- ป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
- บำรุงมดลูก
- แก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วง
- อาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง (กรณีนี้อาจใช้เม็ดบัวต้มกิน)
- ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
- แก้ปัญหาไส้เลื่อน


12
กระเจี๊ยบแดงสด + พุทราจีน
เครื่องปรุง กระเจี๊ยบ 1 ขีด
พุทราจีนแห้ง 2 ขีด
น้ำตาลทรายเล็กน้อย (หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำล้างกระเจี๊ยบให้สะอาด ใส่ในหม้อใบใหญ่ใส่น้ำประมาณ 4 ลิตร ล้างพุทราจีนให้
สะอาด บีบให้แตก ใส่ลงไป ต้มเคี่ยวให้เดือดประมาณคร่งึ ช่วั โมง ยกลงใช้ดื่มแทนนํ้า
หรือถ้าชอบหวานก็เติมน้ำตาล
สรรพคุณ - ช่วยลงอาการของหัวใจโต(หัวใจโตมาจากปัญหาของเยื่อหุ้มหัวใจ)
- หัวใจโตเพราะในเลือดมีโซเดียมฟอสเฟตน้อย แต่มีโปรแตสเซียมฟอสเฟตมาก
ให้งดกินผลไม้สดทุกชนิดกินได้เฉพาะผลไม้ดอง ผลไม้แช่น้ำผึ้ง ไม่กินอาหารที่
ผัดหรือทอดด้วยน้ำมันพืช
- ป้องกันเส้นเลือดในสมองเปราะ
- ลดความดันโลหิตสูง
- ลดไขมนั ในเสน้ เลือด ซึ่งจะทาํ ใหห้ ลอดเลือดตีบ
- แก้อาการสมองเสื่อม
- ชาปลายนิ้ว
โยเกิร์ต + นมสด + น้ำผึ้ง + น้ำมะนาว
เครื่องปรุง โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
นมสด 1 กล่อง
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ลูก
วิธีทำนำเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ
สรรพคุณ - ไขมนั ทเี่ กาะในผนังลำไส้ กระเพาะอาหาร ตับ มา้ ม ทำใหร้ ะบบดดู ซึม บกพร่อง
เป็นต้นเหตุของปัญหาเหล่านี้ คือ
1. ถุงน้ำดีข้น เม่อื ถงุ นำ้ ดขี น้ ผลท่ตี ามมา ไดแ้ ก่
o นอนไม่หลับ (ไขมันเกาะผนังลำไส้เล็กมาก)
o อารมณ์ฉุนเฉียว
o ถ้าขันถึง 80% จะเป็นนิ่วในไต
o เหงือกบวม (การนอนหลับไม่เต็มอิ่มทำให้เหงือกบวมได้)
o สายตาจะเสื่อม
o ทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย
o ส่งผลกระทบไปถึงปอด
2. เลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้มึนศีรษะ
3. ไตจะเสอื่ มเพราะตอ้ งทำงานหนัก เม่อื ไตเสอื่ มเป็นผลให้ความจำลดลง
o ไตซ้ายผิดปกติความคิดสร้างสรรค์อารมณ์สุนทรีย์ความรักสวยรักงามจะ
ลดลง และเป็นคนขี้ร้อน
o ไตขวาผิดปกติ ความจำจะลดลง และเป็นคนขี้หนาว
4. เลือดเลี้ยงหัวใจน้อย ถ้าเลือดเลี้ยงหัวใจเหลือเพียง 30% เครื่องมือแพทย์จะตรวจ
พบอาการของโรคหัวใจ
5. ม้ามชื้น ทำใหอ้ าหารและนํ้าท่กี ินเขา้ ไปแปรสภาพเปน็ ไขมนั เปน็ ผลให้อ้วนง่าย
6. ม้านโต ทำให้เหนื่อยง่าย เพราะม้ามไปเบียดปอด คนม้ามโตกินอาหารเท่าไรก็จะ
ไม่อ้วน (ม้ามเป็นตัวควบคุมเม็ดเลือดขาวและน้ำเหลือง)
7. กรณีไขมันเกาะลำไส้เล็กมาก ๆ จะทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้มี
ผลดังนี้
o จะเป็นหวัดในตอนเช้าหรือหวัดเรื้อรัง
o กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
o เกิดโรคภูมิแพ้
8. ไขมันในตับสูง การสร้างเม็ดเลือดจะลำบาก
หมายเหตุ โยเกิร์ต + นมสด + น้ำผึ้ง + มะนาว นี้ ถ้ากินช่วงเช้าจะช่วยลดความอ้วน แต่ถ้ากิน
ช่วงบ่าย (หลังบ่ายสามโมง) จะเพิ่มความอ้วน


13
ถั่วห้าสี
เครื่องปรุง ถั่วดำ1 ขีด
ถั่วเขียว 1 ขีด
ถั่วแดง 1 ขีด
ถั่วขาว 1 ขีด
ถั่วเหลือง 1 ขีด
นำไปคั่วให้สุกก่อนแล้วแช่น้ำรวมกัน ล้างให้สะอาด พักไว้
o ลูกเดือย 1 ขีดล้างให้สะอาด แล้วต้มให้สุก พักไว้
o เม็ดบัว 1 ขีด ล้างให้สะอาด ต้มให้สุก พักไว้
o รากบัว 1 ขีด ปอกเปลือกล้าง ต้มให้สุก พักไว้
วิธีทำ นำเคร่อื งปรุงทั้งหมดรวมกัน แล้วปนั่ ใหล้ ะเอียด ต้มในหมอ้ ใบใหญ่ ใส่นํ้ามาก ๆ กรอง
เอากากออก นำนํ้าทไี่ ดไ้ ปตม้ ใหเ้ ดอื ด เติมนํ้าตาลเลก็ น้อย หรือจะไมใ่ สก่ ็ได้
รับประทานได้เลย
สรรพคุณ - บำรุงกระดูก
- บำรุงเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
- ช่วยลดน้ำหนัก
- ผิวพรรณสดใส


14
เล่าให้ฟัง นวลฉวี ทรรพนันทน์
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ดิฉันได้ไปให้อาจารย์สุทธิวัสส์คำภา ตรวจสุขภาพ (โดยไม่ต้อง
เจาะเลือด ไม่ต้องอดอาหาร) ที่บ้านสวนไผ่สุขภาพศูนย์อาหารมังสวิรัติเยื้องซอยอารีย์สนามเป้า ถนน
พหลโยธิน
อาจารย์ สุทธิวัสส์ ใช้ลูกดิ่ง Pendulum ตรวจท่ปี ลายนิ้วมอื ดูทั้งสองข้างแล้วบอกว่า เลอื ดไป
เลี้ยงสมองส่วนหน้าไม่พอ (เพียง 70% เท่านั้น) ดฉิ ันงงมาก เพราะเม่อื วันที่ 31 ธนั วาคม 2546 ใน
ตอนเชา้ ดิฉนั ร้สู ึกมอี าการเวียนหัว หน้ามดื บา้ นหมุนอย่างแรงจนล้มควํ่าลงไป จงึ ไปใหห้ มอตรวจ
หมอบอกว่านํ้าในหูไมเ่ ทา่ กนั อีกเรื่องหน่งึ คือ อ.สทุ ธวิ ัสส์ บอกดิฉันว่ากระดูกคอ และกระดูกหลังขอ้ ที่
8,9,10 ก็เคลื่อน ดิฉันกเ็ ลยยิ่งงงไปใหญ่ เพราะตอนที่ดิฉันมอี าการนนั้ ก็ได้ไปตรวจเอ็กซเรยท์ ี่
โรงพยาบาลกรุงเทพฯ มาแล้ว หมอที่นั่นบอกว่ากระดูกคอและหลังเคลื่อน แล้วกระดูกยังบางอีกด้วย
ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่เป็นเดือน อาจารย์ตรวจได้แม่นยำมากจริง ๆ ค่ะ
จากการตรวจวันนี้ อ.สุทธิวัสส์ ได้กรุณาแนะนำให้ทานโยเกิร์ต+นมสด+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว ทุก
วันในตอนเช้า เพื่อช่วยเรื่องน้ำในหูไม่เท่ากัน และให้ดื่มน้ำกระชาย+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว เพื่อบำรุง
กระดกู ให้หนาแนน่ ข้นึ อาการปวดหลังกห็ าย เร่อื งนํ้าในหไู มเ่ ทา่ กันกด็ ีข้นึ ไมม่ กี ารอีกเลย
ต้องขอขอบพระคุณ อ.สุทธิวัสส์ เป็นอย่างสูง ที่กรุณาบอกสูตรเด็ด “อาหารเป็นยา” ให้สมกับ
เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “ธรรมชาติบำบัด” จริง ๆ ขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ”


15
ประเมินผลการตรวจสุขภาพจากนิ้วมือ
(บำบัดโรคโดยใช้โลหะและอาหาร)
วันที่ตรวจ ..................................
ชื่อ ................................................ นามสกุล ............................................ วัน/เดือน/ปี/เกิด ...................................
เลือดเลี้ยงสมอง (ส่วนหน้า...................% ส่วนกลาง...................................... % ส่วนหลัง.....................................%
เม็ดโลหิตขาว................................... (ปกติ6,000/ลบ.ม.ม.) ปริมาณโลหิตแดง .................................... ลิตร (ปกติ6 ลิตร)
เซลล์มะเร็ง...................................... (มี/ไม่มี) เลือดเลี้ยงหัวใจ ......................................% อื่น ๆ .............................
ความปกติ/ผิดปกติของ (ไขมันในเลือด.......................... น้ำตาลในเลือด ........................ไขมันในลำไส้........................... )
ความผิดปผกติของเซลล์ประสาท (ที่สมอง ............กระดูกคอข้อที่ ............กระดูกสันหลังข้อที่ ............... กระดูกเอวข้อที่.........
อื่น ๆ..............................................................................................................................................................
มือซ้าย ระบบทมี่ ปี ญั หา โลหะบำบัด มือขวา ระบบทมี่ ปี ญั หา โลหะบำบัด หินสที ใี่ ช้
นิ้วโป้ง
(ธาตุทอง)
1. ปอด
2. ลำไส้ใหญ่
แหวนเงิน
แหวนทอง
นิ้วก้อย
(ธาตุน้ำ)
7. กระเพาะปัสสาวะ
8. ไตขวา
แหวนทอง
แหวนเงิน
สีเทา สีดำ
นิ้วชี้
(ธาตุดิน)
3. กระเพาะอาหาร
4. ...ม้าม/...ตับอ่อน
แหวนทอง
แหวนเงิน
นิ้วนาง
(ธาตุไม้)
11. ถงุ นํ้าดี
12. ตับ (ทำงาน....%)
แหวนทอง
แหวนเงิน
สีเขียว สีฟ้า
นิ้วกลาง
(ธาตุไฟ)
5. กล้ามเนื้อหัวใจ
9. เย่อื หมุ้ หัวใจ
8. ลำไส้เล็ก
10. ซานเจียว
(ระบบความร้อน)
แหวนเงิน
แหวนเงิน
แหวนทอง
แหวนทอง
นิ้วกลาง
(ธาตุไฟ)
5. กล้ามเนื้อหัวใจ
9. เยื่อหมุ้ หวั ใจ
6. ลำไส้เล็ก
10. ซานเจียว
(ระบบความร้อน)
แหวนเงิน
แหวนเงิน
แหวนทอง
แหวนทอง
สีแดง สีชมพู
นิ้วนาง
(ธาตุไม้)
11. ถุงน้ำดี (ข้น...%)
12. ตับ (ทำงาน...%)
แหวนทอง
แหวนเงิน
นิ้วชี้
(ธาตุดิน)
3. กระเพาะอาหาร
.....ม้าม/....ตับอ่อน
แหวนทอง
แหวนเงิน
สีเหลือง
นิ้วก้อย
(ธาตุน้ำ)
7. กระเพาะปัสสาวะ
8. ไตซ้าย
แหวนทอง
แหวนเงิน
นิ้วโป้ง
(ธาตุทอง)
1. ปอด
2. ลำไส้ใหญ่
แหวนเงิน
แหวนทอง
สีขาว
ความสมั พันธข์ องระบบตา่ ง ๆ ในรา่ งกาย มีดงั นี้ : (1 คู่กับ 11), (2 คกูั่บ 5), (3 คู่กับ 12), (4 คู่กับ 7), 9 คู่กับ 10), (6 คู่กับ 8)
เจ้ากรรมนายเวร .............................................(มหี รอื ไมมี่) *** ใหท้ าํ ตามประเพณที างศาสนาท่ตี นเองนับถอื อย*ู่ **
การแก้ไข เช่น ตักบาตรพระ 4 รูป หรือทำสังฆทาน...............................ปฏิบัติธรรม 3 วัน ............................ ปฏิบัติธรรม 7 วัน
อื่น ๆ..............................................................................................................................................................
อาหารบำบัด
...............โยเกิร์ต+นมสด+นำ้ ผงึ้ +น้ำมะนาว (ไมม่ สี ดั สว่ น ใหผ้ สมตามใจชอบ หรอื อรอ่ ย)
...............เห็ด 3 อย่าง อาจนำมาทำเป็นอาหารหรือต้มกินกันเฉพาะน้ำ (ส่วนเนื้อเห็ดนำไปปรุงอาหารรับประทาน)
เห็ด 3 อย่าง ที่นำมาต้มกินมีเห็ดหอม+เห็ดหูหนูดำ+เห็ดหูหนูขาว+(ผลมะตูมแห้ง+ใบเตย)
...............น้ำสับปะรดปั่นกับใบโหระพา
...............น้ำกระชายปั่น+น้ำผึ้ง+มะนาว
...............กระเจี๊ยบแดง+พทุ ราจนี (น้ำหนักเท่ากัน) ตม้ กินนำ้ (ผสมน้ำตาลเล็กน้อย)
อื่น ๆ..............................................................................................................................................................
..........................................................................


16
สูตรเด็ด
สับปะรดกับใบโหระพา ปั่นสด กรอง
- เพิ่มเมด็ เลอื ดแดง และเม็ดเลือดขาว ทำให้สุขภาพแข็งแรง
น้ำกระชาย (จะใส่โหระพาด้วยก็ได้) ปั่นกรอง
- ปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชาย
- บำรุงกระดูก บำรุงผมผมจะดำแก้ต่อมลูกหมากโต
- ปรับความดันโลหิต
กระเจี๊ยบ+พุทราจีน ต้ม ดื่ม
- ลดไขมันในเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ไม่แตกงาย ลดหินปูน
น้ำเห็ด 3 อย่าง (เห็ดอะไรก็ได้) ต้มรวมกัน
- ล้างพิษในตับ ต้านมะเร็ง
- ลดการเกิดเนื้องอกของอวัยวะภายใน
- ลดไขมันในตับ และในเลือด
มะละกอดิบ (ห่าม) + ใบหม่อน ต้ม
- ล้างไขมนั ที่เคลือบลำไส้ ช่วยให้การดดู ซึมดีข้นึ
รากเตยหอม+มะตูม
- ฟื้นฟูตับอ่อนให้แข็งแรง (ลดเบาหวาน)
ถั่ว 5 สี+ลูกเดือย+เม็ดบัว+รากบัว+มันเทศ ต้มปั่น
- ผวิ จะใส บาํ รุงกระดกู เสน้ เอน็ และกล้ามเนอื้ ลดนำ้ หนัก
ขมิ้นชัน ขูดเปลือกทิ้ง หั่นชงชา
- แก้ไอ ขับเสมหะ
บอระเพ็ด ต้ม 1 เกียก นํ้าผงึ้ ผสมมะนาว
- นิ่วในถุงน้ำดี
ใบมะยม ต้มในน้ำเห็ด 3 อย่าง
- เบาหวาน ปวดข้อ
ใบบัวบก+กระชาย 3 ราก+น้ำ 1 แกว้ ป่นั กรอง
- เอามา 2 ช้อนโต๊ะ เจือจาง ดื่ม
- ทาํ ให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขนึ้ ไม่หลงลืม ต้านสมองฝ่อ
กระเจี๊ยบเขียว 7 กำมือ ต้มกินหมดใน 2-3 วัน
- ขับตัวจี๊ด
ดอกอัญชัน กินสด ต้มนาํ้
- ป้องกันมะเร็ง และเนื้องอก
- ฟื้นฟูระบบหัวใจ ตับ ปอด ม้าม
- ดูแลระบบน้ำเหลือง
รางจืด
- ลดสารพิษในตับ


17
- ผสมน้ำซาวข้าว จะถอนพิษนิโคติน (สำหรับคนจะอดบุหรี่)
ดอกปีบ
- บำรุงปอด ถุงลม แก้หอบหืด
รากหญ้าคา+เก๋ากี๊+เก๊กฮวย ต้มดื่ม
- แก้นอนไม่หลับ
กระเทียม
- โรคหัวใจ และหลอดเลือด สมอง
กินกล้วยวันละ 1-2 ผล จะช่วยลดความเครียด
ลดความดัน เคลือบกระเพาะ และโรคหัวใจ


18
ข่าวสุขภาพ
หมอ 3 ชาติระบุดื่มน้ำเต้าหู้ ลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม...
แพทย์ยืนยัน วิตามินซีและ อีช่วยลดอัลไซเมอร์ (สมองฝ่อ)...
ผลงานวิจัยผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้ม เช่น บรอคโคลีคะน้า ลูกยอดิบ ฯลฯ จำพวกสีเหลือง เช่น
แครอท ฟักทอง มะละกอ มะเขอื เทศ ฯลฯ ตลอดจนผักพื้นบา้ นไทยอกี มากมายที่มเี บตา้ แคโรทนี
เป็นแอนติออกซิแดนท์ต้านความเสื่อมของเซลล์และป้องกันความผิดปกติของเซลล์ (มะเร็ง)
ผกั ผลไม้ที่มสี ีม่วง นํ้าเงนิ แดงเขม้ ดาํ เช่น องุ่นมว่ ง ลูกเบอรี่ (ในไทย คอื ลูกหม่อน) สามารถ
ต้านมะเร็ง โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อมได้
ต่างชาตเิ พิ่มฮือฮา พบอาหารมังสวริ ัตชิ ่วยลดโคเลสเตรรอลไดถ้ งึ 29%
ใช้ฝึกคูณกำจัดศัตรูพืชแทนสารเคมีโดยใช้ผักคูณแก่ 1 กก. แช่น้ำ1 ปี๊บ ทิ้งไว้ 2-3 วัน
กรองเอาแต่น้ำนำไปฉีดกำจัดด้วงกินใบหนอนม้วนใบ หนอนกระทู้ผัก
กลิ่นดอกมะลมิ ีฤทธทื ำใหห้ ลับสนิท เมื่อตื่นขนึ้ มาจะสดช่นื
นักวิจัยพบว่า การหัวเรา 1 นาทีเท่ากับการออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง และการหัวเราช่วยรักษา
โรคเบาหวานได้ด้วย


19
ดีใจจังเลย...
อยากเล่าอยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับทุกคนค่ะ คือว่า ....
หนูเรียนเก่ง ความจำดีสมองดีสุขภาพดี...
เพราะทุกเช้าหนูกินโยเกิร์ต+นมสด+น้ำผึ้ง+มะนาว
คุณแม่หนูก็อารมณ์ดีมาก ๆ ...
เพราะเอากล้วยน้ำว้าดิบมาทำอาหารกินแทนเนื้อสัตว์
คุณพ่อหนูแข็งแรง มีสุขภาพดีเวลานอนก็ไม่กรนเสียงดัง...
เพราะตื่นตี5 ออกกำลังกายทุกวัน
พี่หนูน้องหนูมีความสุข สดชื่น...
เพราะกินน้ำกระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราจีนแทนน้ำอร่อย ชื่นใจดี
ครอบครัวหนูผิวสวย สดใส รูปร่างดีกันทุกคน
เพราะกินถั่ว 5 สีเป็นประจำ
20
ช่วงเวลา ระบบที่เกี่ยวข้อง ข้อควรปฏิบัติ
01.00-03.00 น. ตับ นอนหลับพักผ่อนให้หลับสนิท
03.00-05.00 น. ปอด ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธิ์
05.00-07.00 น. ลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายอุจจาระ
07.00-09.00 น. กระเพาะอาหาร กินอาหารเช้า
09.00-11.00 น. ม้าม พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
11.00-13.00 น. หัวใจ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก งดกินอาหารทุกประเภท
15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เหงื่อออก (ออกกำลังกายหรืออบตัว)
17.00-19.00 น. ไต ทำให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน
19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ทำสมาธิหรือสวดมนต์
21.00-23.00 น. ระบบความร้อนของร่างกาย ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น
23.00-01.00 น. ถุงน้ำดี ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
นาฬิกาชีวิต อ.นวลฉวีทรรพนันทน์

3 ความคิดเห็น

  1. คุณเสก // 15 สิงหาคม 2552 เวลา 02:09  

    การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต” ...

  2. nu.koi // 15 สิงหาคม 2552 เวลา 02:10  

    จะลองทำให้เป็นนิสัยนะ เคยทำตามแล้วได้อะไรดีๆกับร่างกายและแจ่มใสขึ้นนะ ก็ดีหันมาดูแลสุขภาพกับบ้างจะได้ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย

  3. ธเนศ นันทวิสัย // 15 สิงหาคม 2552 เวลา 02:10  

    นอกจากอาหารแล้ว จิตใจก็เป็นเรื่องสำคัญ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ยึดมั่นในศีล ๕ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้แจ่มใส